สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) จัดงานแถลงข่าวความสำเร็จของโครงการเร่งรัดการพัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Intensive Cybersecurity Capacity Building Program) ระยะที่ 1 และจัดพิธีมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้าร่วมอบรมในหลักสูตร โครงการเร่งรัดการพัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Intensive Cybersecurity Capacity Building Program) ระยะที่ 1 โดย พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พร้อมจัดงานมอบโล่และเงินรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน “Thailand Cyber Top Talent 2022” และมอบโล่เกียรติคุณเพื่อแสดงความขอบคุณให้แก่ 8 หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนในการศึกษา
ดูงานหน่วยงานของโครงการฯ ณ ห้องจูปิเตอร์ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้เกียรติเป็นประธานมอบโล่และเงินรางวัล และโล่เชิดชูเกียรติในครั้งนี้
ในพิธีมอบโล่และเงินรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน “Thailand Cyber Top Talent 2022” ได้แบ่งระดับการแข่งขันเป็น 3 ระดับ ได้แก่ระดับมัธยมศึกษา ระดับอุดมศึกษา และระดับประชาชนทั่วไป รวม 9 ทีม และมอบโล่เกียรติคุณเพื่อแสดงความขอบคุณให้แก่หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนในการศึกษาดูงานหน่วยงานของโครงการฯ จำนวน 8 หน่วยงาน โดยศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวทิ้งทายว่า ในปัจจุบันปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เป็นปัญหาสำคัญและเร่งด่วนที่จะต้องได้รับการแก้ไขในทุกระดับทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้เป็นเสาหลักให้แก่องค์กรหรือประเทศชาติในการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์รูปแบบต่าง ๆ ในโลกยุคเศรฐกิจดิจิทัล ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมทางไซเบอร์อย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในทุก ๆ ปี ซึ่งแต่ละเหตุการณ์จะสร้างความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศทั่วโลก ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องพัฒนาขีดความสามารถ รวมถึงความรู้และความเข้าใจด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ตั้งแต่ในระดับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจด้านนี้ เพื่อให้เป็นกำลังของประเทศชาติต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ หลังจากพิธีมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้าร่วมอบรมในหลักสูตรของโครงการฯ พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการฯ กล่าวว่า ขอให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ จากโครงการฯ ของ สกมช. ได้นำความรู้ ความสามารถที่ได้จากการอบรมไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน เพื่อพัฒนาองค์กรของทุกคน ให้มีความมั่นคง
ปลอดภัยไซเบอร์ที่มั่นคงและยังยืนต่อไป รวมถึงอย่าหยุดที่จะค้นคว้าหาความรู้ต่อยอดจากสิ่งที่ได้รับในแต่ละหลักสูตร นอกจากนี้ ยังได้รายงานผลสำเร็จของการดำเนินงานโครงการฯ มีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าอบรมจำนวน 4,169 คน คิดเป็นร้อยละ 130 จากเป้าหมายของโครงการ และมีผู้ที่ได้รับสิทธิ์สอบ และสอบผ่านได้รับประกาศนียบัตรสากลในโครงการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
EC-Council: ECSS จำนวน 858 คน
CompTIA Security+/ CySA+/ Pentest+/ Linux+/ Cloud+/ Project+ จำนวน 423 คน
(ISC)2: CISSP จำนวน 45 คน
พร้อมทั้งได้มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการ อาทิ กิจกรรม Capacity Building NCSA และ CERT CII Cyber Training ซึ่ง สกมช. มีความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยและบริษัท restrospect labs เพื่อเป็นการสร้างวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กิจกรรมสร้างเครือข่ายด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมสานความสัมพันธ์เพื่อความร่วมมือซึ่งกันและกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ และกิจกรรมดูงานในองค์กรที่มีให้บริการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ชั้นนำของประเทศ โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 1,578 คน นอกจากนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการ เพื่อสร้างความยั่งยืนของการพัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศต่อไปในอนาคต ทาง สกมช. ได้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมทั้งระดับพื้นฐาน และเชี่ยวชาญ พร้อมจัดทำคลิปวีดีโอเพื่อใช้เป็น e-learning สำหรับกลุ่มคนที่สนใจ อาทิ นักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์ ประชาชนทั่วไป และผู้พิการหรือทุพพลภาพ เพื่อเรียนและสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรของ สกมช.
จากผลสำเร็จของโครงการฯ สกมช. เห็นถึง ประโยชน์ของหลักสูตรนี้กับประชาขนทุกช่วงวัย จึงได้นำมา พัฒนาเป็น ระบบ e-learning ที่เปิดให้ทุกคนเข้าใช้งาน และจะส่งเสริมให้ผู้พิการ สุภาพสตรี หรือกลุ่ม LGBTQ
ได้มีโอกาสทำงานด้านไซเบอร์ให้มากขึ้นในปี 2566 และต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจ ลงสมัครเรียนฟรีหลักสูตรพัฒนาบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ของ สกมช. สามารถลงทะเบียนเรียนได้ผ่าน QR Code ด้านล่างนี้