โดย ลาร์รี ฮานน์ ผู้อำนวยการฝ่ายช่องทางบริการด้านดิจิทัล ของเอพีซี โดย ชไนเดอร์ อิเล็คทริค(Schneider Electric)
ตลาดบริการด้านการบริหารจัดการ หรือ managed services กำลังเติบโต โดยคาดการณ์อัตราเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 12 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้านเอดจ์คอมพิวติ้งจะแตะที่ 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 เช่นกัน นอกจากทั้งสองตลาดนี้เกี่ยวข้องกันแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการ (MSPs) และ ตัวแทนจำหน่ายแบบ VARs (value added resellers) (VARs) ที่ต้องการนำเสนอบริการ managed services รวมอยู่ในธุรกิจ ตลอดจนลูกค้าที่กำลังมองหาความช่วยเหลือในการนำระบบโครงสร้างไอทีแบบกระจายศูนย์มาปรับใช้งานได้ตามต้องการ รวมไปถึงการบริหารจัดการระบบเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสาเหตุที่ต้องการใช้บริการดังกล่าว คือลูกค้าส่วนมากมักไม่ต้องการใช้ บุคลากรของตนไปกับการบริหารจัดการพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับไซต์ไอทีที่อยู่ห่างไกล พร้อมกับกำลังมองผู้ให้บริการโซลูชันไอทีที่นำเสนอบริการดังกล่าวได้
ด้วยเหตุนี้ธุรกิจ MSPs และ VARs จึงเป็นที่น่าจับตาเพราะเป็นการเปิดสู่โอกาสด้านการบริหารจัดการพลังงาน ตัวอย่างเช่นลูกค้าที่ต้องการมอบหมายให้พนักงานไอทีทำงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น แทนที่จะต้องมาบริหารจัดการเรื่องดังกล่าว หรือ บริษัทที่กำลังขยับขยายงานด้านไอทีเพื่อรองรับการปฏิรูปสู่ดิจิทัล เหล่านี้อาจต้องพิจารณาการบริหารจัดการพลังงานในส่วนของระบบงานและอุปกรณ์ต่างๆ ได้จากระยะไกล เช่น UPS 1 เฟส ตู้แร็ค และอุปกรณ์ทำความเย็นเป็นต้น
โอกาสในการให้บริการด้านการบริหารจัดการพลังงาน
การจัดการพลังงานเป็นการเพิ่มมูลค่ามหาศาล เพราะเป็นการสนับสนุนเป้าหมายสูงสุดของการให้บริการด้านการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มอัพไทม์สูงสุดให้กับระบบ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมด้านไอทีแบบกระจายศูนย์ที่มีไซต์งานเอดจ์คอมพิวติ้งหลากหลายไซต์ ซึ่งโดยปกติมักจะไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่ประจำไซต์ ซึ่งในมุมมองของลูกค้า ผู้ให้บริการโซลูชันควรมีการเสริมการป้องกันด้วยระบบสำรองไฟฟ้าที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบงานจะไม่ล้มเหลวเมื่อจำเป็นต้องใช้งาน สำหรับมุมมองของผู้ให้บริการ เรื่องนี้นับเป็นแนวทางในการเพิ่มรายได้ประจำในระยะยาว
จุดนี้ทำให้บริการดังกล่าวมีการเติบโตสูง เนื่องจากโดยทั่วไปลูกค้ามักไม่ค่อยถามถึงบริการด้านการจัดการพลังงาน แต่เมื่อได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าอาจยังไม่รู้ว่านี่เป็นทางเลือกหนึ่ง หรืออาจยังไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ตาม แต่ก็ชอบแนวคิดในการจ้างเอาต์ซอร์สมาช่วยบริหารจัดการพลังงาน เพื่อช่วยให้พนักงานมีเวลามากขึ้น ซึ่งโดยปกติ ลูกค้ามักจะมุ่งเน้นไปที่แอปพลิเคชันและความสามารถใหม่ๆ โดยไม่ได้เน้นที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการทำงาน ดังนั้นจึงอยู่ที่ผู้ให้บริการที่จะนำเสนอบริการ managed power ด้วยเหตุและผลเกี่ยวกับความสำคัญของเรื่องนี้
โอกาสในการสร้างรายได้ประจำ
การจัดการพลังงานจากระยะไกลมอบศักยภาพในการเพิ่มรายได้อย่างแท้จริง โดยในความเป็นจริง บริการด้านการบริหารจัดการพลังงาน สามารถคิดเป็นต้นทุนสินทรัพย์ต่อปีได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ที่นี้ ลองแจกแจงออกมาเป็นตัวเลขดู ถ้าคุณบริหารจัดการสินทรัพย์ 100 รายการสำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMB) หรือ 200 รายการสำหรับลูกค้าองค์กรในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซ ด้วยมูลค่า 1,200 บาท ต่อสินทรัพย์หนึ่งรายการ ก็จะเพิ่มรายได้ต่อเดือนได้ 12,000 บาท หรือ 24,000 บาทตามลำดับ และหากคุณบริหารจัดการสินทรัพย์ทั้งหมด 375 รายการ ก็จะคิดเป็นยอดรายได้รวมต่อเดือนอยู่ที่ 450,000 บาท
เมื่อต้องนำเสนอลูกค้าเกี่ยวกับการบริหารจัดการพลังงาน ผู้ให้บริการยังสามารถเปิดประเด็นไปสู่การขายบริการด้านไอทีอื่นๆ ได้อีก เช่น การประเมิน การวางระบบ และการปรับปรุงฮาร์ดแวร์ หากคุณสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าลูกค้าไม่มีการบริหารจัดการพลังงานอย่างเหมาะสมหรือขาดความสามารถในการมองเห็น คุณก็สามารถชี้ให้เห็นได้อีกว่าอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ ก็จะไม่สามารถมองเห็นหรือบริหารจัดการได้ดีเช่นกัน ถ้าลูกค้าไม่ได้ใช้บริการ MSP หรือไม่ได้รับบริการที่มีคุณภาพเนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบการใช้พลังงานได้ เท่ากับคุณมีโอกาสที่จะเข้าถึงลูกค้าและสร้างรายได้เพิ่มได้
เส้นทางสู่การให้บริการ managed power
บริการด้านการบริหารจัดการพลังงาน แสดงให้เห็นถึงโอกาสสำหรับ MSPs และ VARs ที่มองหาโมเดลการสร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง โดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค และแพลตฟอร์ม EcoStruxureTM IT ให้แนวทางที่หลากหลายในการมอบการบริการด้านการบริหารจัดการพลังงาน ควบคู่ไปกับการให้การสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบด้วยโปรแกรมด้านการฝึกอบรมและโปรแกรมที่ให้สิทธิประโยชน์มากมาย ซึ่งชไนเดอร์ฯ ได้มีการออกแบบข้อเสนอหลากหลายสำหรับการเปิดตัวสู่ตลาด เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถตอบรับได้อย่างมั่นใจ ในเวลาที่ลูกค้าขอให้ช่วยบริหารจัดการอุปกรณ์จ่ายพลังงาน และในบทบาทของคู่ค้า คุณสามารถเลือกทางเลือกที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพธุรกิจของคุณในปัจจุบันมากที่สุด รวมถึงเลือกการลงทุนในระดับที่คุณต้องการได้
คุณมีทางเลือกว่าจะให้ชไนเดอร์ฯ ช่วยดูแลทุกอย่างในนามของคุณ หรือคุณจะดูแลทั้งหมดเองก็ตาม หรือดูแลเองบางส่วนและให้ชไนเดอร์ฯ ดูแลบางส่วนก็ได้เช่นกัน คุณสามารถเริ่มจากโมเดลหนึ่งก่อน แล้วค่อยขยับสู่โมเดลอื่นได้โดยง่ายเพื่อให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป
ข้อมูลเชิงลึกในลักษณะเชิงรุกแบบเรียลไทม์ของ EcoStruxure IT ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยง รวมถึงการออกแบบให้เป็นระบบเปิด ช่วยให้สามารถมองเห็นและเข้าถึงได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการสามารถแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ UPS ก่อนที่เครื่องจะทำงานล้มเหลว หรือเตือนลูกค้าเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเฟิร์มแวร์ที่ล้าสมัย ทั้งนี้ สามารถเข้าไปดูทางเลือกต่างๆ ได้จากรายละเอียดด้านล่าง เพื่อเลือกข้อเสนอที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ และลองทำแบบทดสอบเพื่อประเมินแนวทางที่ดีที่สุด เมื่อคุณพบทางเลือกที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณแล้ว คุณยังสามารถลงทะเบียนโปรแกรม Edge Software & Digital Services Program เพื่อเริ่มต้นให้บริการได้
เข้าถึง eguide ใหม่เกี่ยวกับบริการด้านการบริหารจัดการพลังงาน
บริการ Managed power คือโอกาสที่ดียิ่งสำหรับผู้ให้บริการ MSPs และผู้ที่ต้องการนำเสนอบริการดังกล่าว และในการตอบสนองความต้องการสำคัญสำหรับลูกค้า ผู้ให้บริการโซลูชันจะได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้า สร้างความผูกพันอันเหนียวแน่นในบทบาทที่ปรึกษาด้านไอทีที่เชื่อถือได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโอกาสในการนำเสนอบริการ managed power และวิธีผนวกบริการดังกล่าวไว้ในธุรกิจของคุณ โดยลองเข้าไปดูคำแนะนำผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ หรือ equide ใหม่ของเราได้ที่ “สุดยอดคัมภีร์การขยายธุรกิจของคุณด้วย Managed Power Services” ซึ่งคู่มือที่มีประโยชน์นี้ จะช่วยแนะนำผู้ให้บริการโซลูชันไอทีก้าวสู่กระบวนการที่ง่าย ทีละขั้นตอน เกี่ยวกับวิธีประเมินและผนวกบริการด้านการบริหารจัดการพลังงานเข้ากับธุรกิจ