Home > ข่าว ประชาสัมพันธ์ > อนาคตการศึกษาไทย ปรับตัวอย่างไรให้ทันการเปลี่ยนแปลง Education Disruption Conference and Hackathon 2018

อนาคตการศึกษาไทย ปรับตัวอย่างไรให้ทันการเปลี่ยนแปลง Education Disruption Conference and Hackathon 2018

//
Comments are Off

27 กุมภาพันธ์ 2561 – เพราะโลกเรากำลังเข้าสู่ยุค Digital Disruption อย่างเต็มตัว และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดที่กำลังจะถึงจุดหักศอก และกำลังนำมาซึ่งความท้าทายอย่างใหญ่หลวง ในแง่ของการปรับตัวและการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ให้ทันกับโลก เพราะกว่า 47% ของการจ้างงานกำลังจะหายไป และ กว่า 90% ของตำแหน่งงานดั้งเดิมกำลังจะถูก Disrupt และถูกเปลี่ยนโฉมไปแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ภายใน ปี 2030

เรากำลังอยู่ในยุคที่มนุษย์ต้องปรับตัวแบบก้าวกระโดด และการจ้างงานแบบชั่วชีวิตไม่มีอีกต่อไป เหลือเพียงการเรียนรู้ และปรับตัวตลอดชีวิต ( From Lifetime Employment to Life Time Employability ) เราอยู่ในยุคที่ คนที่เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ (Learn, Unlearn, Relearn) และสามารถปรับตัวเข้ากับยุคใหม่ได้ ก็จะกลายเป็น Digital Talent ซึ่ง Talent แต่ละคน สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจแก่องค์กรและประเทศชาติได้ ในระดับหลายพันล้านบาทต่อคน เราอยู่ในยุคที่การศึกษาแบบดั้งเดิมไม่ได้ตอบโจทย์การอยู่รอดในโลกยุคใหม่อีกต่อไป และในขณะที่ทั่วโลกกำลังมีการปฏิวัติการศึกษากันอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น Computer Science for All ที่ต้องการให้เด็กทุกคนมีความเข้าใจทางด้าน Computer Science และการเขียนโปรแกรม หรือการเน้นการศึกษาทางด้าน STEAM – Science, Technology, Engineering, Art, and Mathematics และสอนกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ( Systematics Thinking )และ เป็น Project-Based, Play-Based Learning ที่มาปฏิวัติระบบการศึกษาดั้งเดิม จากแบบที่เป็นท่อ ทุกคนเข้า-ออกทางเดียวกัน และขยับเลื่อนชั้นพร้อมๆ กัน เปลี่ยนไปเป็นการศึกษาที่แตกแขนงกิ่งก้านไปตามเส้นทางความถนัด และเป้าหมายการเรียนรู้ของแต่ละคน ( From Pipe to Personalized Learning Pathway ) โดยนวัตกรรมทางการศึกษาหลาย ๆ อย่างนั้นก่อกำเนิดมาจาก EdTech Startup ซึ่งในต่างประเทศสามารถระดมทุนรวมกันได้ถึง 3.4 พันล้านเหรียญ ในขณะที่ EdTech Startup ไทยระดมทุนได้เพียงไม่กี่สิบล้านบาทเท่านั้น

และการศึกษาไทยโดยรวม มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก จากผลคะแนน Pisa ล่าสุด ที่กว่า 50% ของเด็กไทย สอบตกด้านการอ่าน เพราะอ่านแล้วไม่เข้าใจ กว่า 53.8% สอบตกด้านคณิตศาสตร์ และ 46.7% สอบตกด้านวิทยาศาสตร์ เพราะไม่สามารถเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ได้ ทั้งที่ การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เป็นหัวใจพื้นฐานของการเรียนรู้ในยุคนี้ และเราอาจเหลือเวลาเพียงไม่กี่ปี ในการปฏิรูปการศึกษาไทยให้เป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง

ดังนั้นเพื่อช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกับวงการการศึกษาไทย Disrupt KBank และ TCP จึงประกาศเป็นเจ้าภาพจัดงาน ประชุมนานาชาติสุดยิ่งใหญ่ งาน “Education Disruption Conference and Hackathon 2018” โดยร่วมกับ TDRIdtacPTT และ Areeya Property เพื่อ นำวิทยากรระดับโลก และระดับประเทศ มาแชร์ Paradigm ความคิด นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทางการศึกษาระดับโลกสู่เมืองไทย  โดยมี speaker ระดับโลกอย่าง Michael Staton หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกด้านการศึกษา และผู้จัดการกองทุน Learn Capital กองทุน VC เบอร์ 1 ของโลกที่ลงทุนกับEdTech Startups ด้วยเงินลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท ที่จะมาแชร์ในหัวข้อ “Future of Education” การศึกษาแห่งโลกอนาคตและการปฎิวัติการศึกษาเพื่อตอบโจทย์ในโลกยุค Digital Disruption

นายกระทิง พูนผล Founder ของ Disrupt กล่าวว่า “ประเทศไทยต้องการการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาแบบก้าวกระโดดเพื่อให้ปรับตัวทันยุค Digital Disruption และก้าวพ้น กับดักรายได้ปานกลาง งาน conference และ Hackathon ครั้งนี้จะนำเอาแนวคิดใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ และนวัตกรรมใหม่ๆ และEdTech startups ใหม่ๆมาร่วมจุดประกายการเปลี่ยนแปลง การศึกษาเหมือนที่ Disrupt เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงแก่วงการ startups ตั้งแต่ 2012”

 

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า” ธนาคารมีความใส่ใจในการศึกษาและการเข้าไปมีบทบาทในการสร้าง talentsให้กับประเทศ มานาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการล่าสุดที่ธนาคารกสิกรไทย เข้าไปร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการสร้าง CU Innovation District หรือการ re-skill พนักงานของ ธนาคารเองให้ปรับตัวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี  ธนาคารกสิกรไทยจึงมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมในการจัดงาน conference ครั้งนี้”  

นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า”ในยุคที่ทุกอย่างในโลกกำลังถูก Disrupt ทุกคนต้องปรับตัว และพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลัง เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การศึกษาถือเป็นรากฐานที่จะเตรียมคนรุ่นใหม่ของไทยให้พร้อมเป็นพลังที่จะขับเคลื่อน เศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เกิดความยั่งยืน ด้วยวิสัยทัศน์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิต และ ผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มชั้นนำ อาทิ กระทิงแดง เรดดี้ สปอนเซอร์ แมนซั่ม และขนมขบเคี้ยวซันสแนค และในฐานะคนไทยที่เป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลก การเป็นเจ้าภาพร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ในการจัดงานครั้งนี้ กลุ่มธุรกิจTCP มุ่งหวังให้เกิดการมีส่วนร่วม เพื่อผลักดันให้เกิดการสร้างนวัตกรรมด้านการศึกษา อย่างเป็นรูปธรรม เพราะการศึกษาที่เท่าทันโลกเท่านั้น จึงจะสร้างคนที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในยุค Disruptive World นี้”

นายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท กล่าวว่า “งาน conference ระดับนานาชาตินี้ยังต่อเนื่องด้วยการจัดงาน EdTech Hackathon 2 วัน เพื่อสร้างนวัตกรรมผ่านทาง EdTech Startups อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัพที่สนใจจะสร้างนวัตกรรมทางด้านการศึกษาของไทยให้หลากหลายมากขึ้น พร้อมด้วยรางวัลมากมาย โดยทีมที่มีผลงานชนะเลิศจะได้รับสิทธิพิเศษเข้าร่วม Fast Track ของโครงการ dtac accelerate batch 6 ที่จะเริ่มเปิดโครงการในวันที่ 7 มีนาคม นี้ พร้อมทั้งการได้สิทธิการ mentor อย่างใกล้ชิดและการพิจารณาการร่วมทุนจาก 500 TukTuks

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทางดีแทค แอคเซอเลอเรท เองก็ได้สนับสนุนและร่วมลงทุนในสตาร์ตอัพทางด้านการศึกษาหรือที่เราเรียกว่า EdTech Startup อยู่หลายบริษัทด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Globlish และ Senseino ที่ใช้เทคโนโลยีสร้าง แพลตฟอร์มให้คนไทยได้เข้าถึงการเรียนรู้ภาษาอื่นๆได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เด็กไทยสามารถเข้าใจและเรียนรู้ภาษาอื่นได้เร็วขึ้น ดีขึ้นและเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการร่วมสนับสนุนการจัดงาน Education Disruption Conference and Hackathon 2018 ครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้ได้ EdTechสตาร์ตอัพ เข้ามาช่วยกันพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย ให้มีหลากหลายมิติสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้มากยิ่งขึ้น”

โดยงานแบ่งเป็น 2 งานคือ งาน Education Disruption Conference จะจัดขึ้นในวันศุกร์ ที่ 30 มีนาคม 2561 เวลา 9.00 – 18.00 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น7 สยามสแควร์วัน

สำหรับบุคคลทั่วไป ลงทะเบียนฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.disruptignite.com/conference

และลงทะเบียนได้ที่ http://www.eventinsight.co/mobile/registration/create/edc/

ส่วนงาน Edtech Hackathon จัดขึ้นในวันเสาร์ ที่ 31 มีนาคม และอาทิตย์ ที่ 1 เมษายน 2561 (2 วัน 1 คืน) ที่ ดีแทคเฮ้าส์ จามจุรีสแควร์ สำหรับ Startupและ Education Social Enterprise หรือบุคคลทั่วไปที่มีทีมงานและความมุ่งมั่นอยากทำเทคโนโลยีทางด้านการศึกษา สมัครฟรี !! ทีมละไม่เกิน 5 ท่านพร้อมได้รับสิทธิการ Mentor อย่างใกล้ชิดจากกูรู และ Mentor ระดับโลก และระดับประเทศ

โดยผู้ชนะที่ 1 จะได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท รวมทั้ง Fast Track เข้ารอบสุดท้าย dtac accelerate รวมทั้ง Fast Track ในการรับเงินลงทุนจาก 500 TukTuks  ในส่วนของทีมที่ได้อันดับที่ 2 ได้เงินรางวัล 100,000 บาท และที่ 3 ได้ 50,000 บาท (จำนวน 2 รางวัล) พร้อมได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจาก 500 TukTuks และพันธมิตร เพื่อสร้าง Runway ให้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

สามารถส่งรายละเอียด Idea, Feature, Team เข้ามาได้เลยที่  https://goo.gl/forms/CSCIIJI79NpQ1pEy1

ถ้าคุณเป็นคุณพ่อ-คุณแม่ ที่มีลูก คุณห้ามพลาด keynote “Creating Future Inventors – การเรียนรู้แบบไหนที่ช่วยให้ลูกคุณเป็น Innovators แห่งโลกอนาคตได้” โดย คุณ Mark Pavlyukovskyy, CEO ของ Piper บริษัท EdTech Startups ที่ผลิต Computer Education Kits สำหรับเด็ก 7+ ขวบ ที่แม้แต่ Elon Muskยังต้องซื้อไป 8 ชิ้นเพื่อไปสอนลูกของเค้า และ Product ตัวนี้ยังได้รางวัลระดับโลกมากมาย และได้รับคำชมเชยจากคนระดับ Steve Wozniak (Woz) ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple และปัจจุบันโรงเรียนชั้นนำกว่า 1,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา ก็นำไปใช้ในการเรียนการสอน

ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัท คุณพลาดไม่ได้กับ Discussion Panel ” Future of Work and Future of Workforce” ที่จะมีผู้บริหารระดับสูงสุดของบริษัทใหญ่ ๆ ของประเทศ ที่มีการจ้างงานรวมกันหลายหมื่นตำแหน่ง มา ระดมความคิดกันว่า องค์กรแห่งอนาคตหน้าตาจะเป็นอย่างไร อนาคตแห่งการทำงานจะเป็นไปในรูปแบบไหน กลยุทธ การ re-skill พนักงานของแต่ละบริษัทจะเป็นอย่างไร และพนักงานบริษัทต้องปรับตัวอะไรบ้าง ต้องมีทักษะอะไรเพื่อให้เป็นผู้อยู่รอดในยุค Digital Disruption และไม่ตกงาน