นางอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC กล่าวถึงที่มาของการจัดงานในครั้งนี้ ว่าทำไมการรีสกิลถึงเป็นสิ่งสำคัญต่อองค์กรในยุคปัจจุบัน
- สภาเศรษฐกิจโลกกล่าวว่า ร้อยละ 50 ขึ้นไปของคนทำงานต้องเพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็น (reskill) ภายในปี พ.ศ. 2565
- ซึ่งในด้านเทคโนโลยีนั้นไม่ใช่เรื่องยากแล้ว แต่สิ่งที่ยากคือกรอบความคิดกับวัฒนธรรม
- ทักษะที่ตลาดต้องการจะพัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยีเสมอ ดังนั้นคุณต้องมีกลยุทธ์ในการเพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็น (reskill) หรือการเสริมทักษะใหม่ (upskill)
- การเสริมทักษะใหม่ (upskill) คือ การเสริมทักษะเพิ่มเติมในความเชี่ยวชาญเดิมในบริบทใหม่ ความหมายคือการเพิ่มความสามารถของพนักงานในเนื้องานเดิมบทบริบทใหม่ ซึ่งเพิ่มคุณค่าของพนักงานที่มีต่อองค์กรอย่างมาก
- การเพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็น (reskill) คือ การพัฒนาทักษะทั้งหมดของพนักงานสำหรับเนื้องานอื่นๆ ความหมายคือการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือการฝึกทักษะที่จำเป็นและสามารถนำทักษะเหล่านี้ไปใช้ในหน้าที่ใหม่ภายในบริษัท
- ตอนนี้ การรีสกิล หรือ การอัพสกิล เป็นส่วนหนึ่งของลักษณะงานไปแล้ว ไม่ว่าพนักงานจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ตาม
- ความมุ่งมั่นส่วนบุคคลในการพัฒนาตนเองเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พนักงานกลายเป็นส่วนสำคัญขององค์กร : DNA ใหม่ของเรา
- วันนี้ ยากมากที่ฝ่ายบุคคลจะวางแผนและลงมือปฏิบัติได้อย่างทันท่วงที
- YourNextU คือคำตอบที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด เพราะ YourNextU นั้นออกแบบมาให้เข้ากับบทบาทของคนทุกเพศทุกวัยในราคาที่เอื้อมถึง
- ผลจากกระแส Digital Disruption องค์กรชั้นนำในทุกๆ อุตสากรรมต้องปรับตัวในหลากหลายแง่มุม มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนาธุรกิจให้ก้าวหน้า โดย Digital Disruption นี้มีผลกระทบโดยตรงกับขีดความรู้ความสามารถของพนักงาน ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักและเป็นตัวตัดสินชี้ชะตาถึงความอยู่รอดขององค์กร เป็นเหตุให้องค์กรต้องปรับเพิ่มทักษะที่จำเป็นหรือ Reskill พนักงานเหล่านี้ ในภาพองค์กรต่างๆ ได้มองเรื่องความจำเป็นของการ Reskill อย่างไรบ้าง และได้เตรียมความพร้อมให้กับคนหรือพนักงานเหล่านี้ด้วยวิธี Reskill อย่างไรบ้างแล้ว ยกตัวอย่าง?
คุณกานติมา (AIS)
- AIS พูดคุยถึง Change Management มาโดยตลอด เพราะธุรกิจโทรคมนาคมเป็นธุรกิจที่ถูก Disrupt อยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้มันคือ “Transformation Management” ซึ่งใหญ่กว่า Change Management อยู่มาก
- ในการที่จะแข่งขันกับโลกที่เปลี่ยนไป เราพบเจอกับ 2 Barriers ได้แก่
- ผู้บริหาร
- Human Resource Department
- เมื่อก่อนเวลาเราพูดถึงการเพิ่มศักยภาพคนในองค์กร เรามักจะพูดถึง “ห้องเรียน” ซึ่งผู้บริหารจะเป็น ผู้กำหนดว่าจะเรียนอะไร แบบไหน หรืออย่างไร แต่ในปัจจุบันเราไม่สามารถรอให้ผู้บริหารกำหนดหลายๆ อย่างลงมาได้ เพราะหากรอก็จะตามไม่ทันโลก ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีที่จะทำให้คนในองค์กรคิดเองเป็น ดีไซน์เองเป็น กำหนดจุดหมายเป็น และต้องเกิดการแลกเปลี่ยน โดยวิธีเหล่านั้นจะต้องเอื้อให้คน ในองค์กรสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้เอง
คุณยุทธชัย (Italthai)
- Italthai เปรียบเสมือนแมว 9 ชีวิตที่อยู่มาอย่างยาวนาน เราทำธุรกิจหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ การก่อสร้างไปจนถึงการบริการต่างๆ ดังนั้นเราใช้ทรัพยากรค่อนข้างเยอะ (manpower) ในการดำเนินธุรกิจ
- ปัญหาที่พบเจอ คือ generations gap ระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่
- โจทย์ คือ เราจะหา tools อะไรมาแก้ไขปัญหาเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถ blend in ใน ecosystem ของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมสร้าง Culture ใหม่ๆ ในการเรียนรู้ให้เกิดขึ้น
- ส่วนตัวคิดว่า การรีสกิลและอัพสกิล คือคำตอบที่กำลังตามหา เพราะเมื่อโลกมันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สกิลเดิมๆ ที่เคยมีไม่เพียงพออีกต่อไป จึงจำเป็นต้องรีบเพิ่มและเสริมทักษะให้กับคนในองค์กรและตัวผมเองในฐานะผู้บริหารด้วย เพื่อเราจะสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กันได้
ดร. ศรายุธ (Mitrphol)
- ภาคเกษตรกรรม เป็นภาคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จากที่ต้องใส่ใจแค่การทำการเกษตร อย่างเดียว ก็กลายมาเป็นการทำการเกษตร การผลิต และการจัดจำหน่าย
- ปัจจุบันในภาคเกษตรกรรมมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมาก เพราะมีการคำนึงถึงต้นทุน ในการผลิตมากขึ้น (Productivity) ซึ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยีได้
- Digital เข้ามาแทนที่งานในหลายตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้หลายๆ ตำแหน่งที่เคยใช้กำลังคนจะถูกดิจิตัลแทนที่
- อีกปัญหาหนึ่งที่องค์กรต้องเผชิญคือการอยู่ร่วมกันของคนหลายเจเนอเรชั่น องค์กรมีหน้าที่ต้องหาวิธีในการให้คนทุกเจเนอเรชั่นในองค์กรสามารถอยู่ร่วมกันได้ ภายใต้กระบวนการจัดการเดียวกัน
- Reskill และ Upskill จะทำให้คนทุกเจเนอเรชันสามารถอยู่ร่วมกันหรือสามารถนำพาองค์กรให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงได้ เราจึงต้องเร่งสร้างให้ทุกคนในองค์กรมี Common Platform ที่ไปในทางเดียวกันก่อน
- อีกหนึ่งข้อที่สำคัญต่อองค์กรในการการทันการเปลี่ยนแปลงคือการใช้ Data Science ในการจัดการต่างๆ ซึ่งหากเราสามารถใช้ Data Science ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราก็จะสามารถแข่งขันกับนานาประเทศและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงได้
คุณฤทัย (MTL)
- เราในฐานะธุรกิจประกันภัยต้องปรับตัวกันเยอะมาก
- สิ่งที่ท้าทายสำหรับเรา คือ เราจะรักษา retention rate อย่างไรให้คนในองค์กรของเราสามารถรีสกิลและอัพสกิลโดยเติบโตไปพร้อมๆ กับเราได้
- โดยปกติ คนทั่วไปเมื่อคิดว่าถึงทางตันในสายงานแล้ว (โดยเฉลี่ยประมาณ 4-5 ปี) จะชอบโยกย้าย ไปทำงานในสายอื่น ดังนั้น เราจะทำอย่างไรให้เขาเกิดการเรียนรู้เพื่อเติบโตไปกับบริษัทได้
- อย่าง นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ซึ่งหลายๆคนเข้าใจว่าเขาเป็นคนทำตีราคาประกันแต่จริงๆ นักคณิตศาสตร์ประกันภัยมี baseline ที่ดีมากในการที่จะเป็น machine engineering ซึ่งง่ายกว่าการที่ต้องไปหาคนใหม่แล้วต้องมาสอนกันตั้งแต่แรก
คุณภูมิพัฒน์ (PTG)
- PTG เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานกว่า 16,000 คน และมีธุรกิจหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสถานีบริการน้ำมัน ร้านกาแฟ มินิมาร์ท เป็นต้น ซึ่งความใหญ่ขององค์กรทำให้องค์กรเคลื่อนตัวช้า ทำให้เกิดคำถามว่า “ต้อง Reskill อย่างไร แล้วบน Speed ขนาดไหนถึงจะก้าวทันโลกได้?”
- การพัฒนาองค์กรด้วยการ Reskill ทำบน 2 บริบท ดังนี้
- Reskill เพื่อให้สถานีบริการน้ำมันไปได้ไกลกว่าเดิมด้วยการเสริมสร้างให้พนักงานสามารถออกแบบ การ Reskill ของตัวเองด้วยตนเองได้ เน้น Self-learning ไม่ใช่ป้อนข้อมูลให้กับพนักงานเพียงอย่างเดียว
- การเปลี่ยนผ่านของธุรกิจในองค์กร เช่น จากสถานีบริการน้ำมันไปสู่ Retail ทำให้คิดว่าควรจะ Reskill + สร้าง Mindset ใหม่ๆ ไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นแผนที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบันและจะทำต่อไปในอนาคตด้วย
คุณอภิรัตน์ (SCG)
- ความสำคัญของการรีสกิล คือ
- เมื่อองค์กรเข้าสู่สงครามใหม่ สิ่งสำคัญที่องค์กรจะต้องเลือกทำคือ หาคนใหม่ หรือ 2.ติดอาวุธใหม่ให้คนในองค์กร สำหรับตัวผมการรีสกิลและอัพสกิลคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพราะไม่มีใครรู้จักลูกค้าดีเท่ากับพนักงานที่ทำงานกับเรามาอย่างยาวนาน
- SCG เป็นธุรกิจที่อยู่มานานกว่า 100 ปี แทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ควรจะรีสกิลและอัพสกิลให้คุณภาพชีวิตของพนักงานดีขึ้น เพราะพนักงานก็เปรียบเสมือนลูกค้าของเรา
- ผมเชื่อว่าทุกคนคือแรงขับเคลื่อนประเทศไทย หากเราอยากไปให้ถึง Thailand 4.0 หรือ innovative economy เราต้องรู้จักรีสกิลและอัพสกิลให้เป็น เพื่อให้เราอยู่รอดไปได้
- YourNextU ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการ Reskill/Upskill โดยเฉพาะ สาเหตุที่แต่ละองค์กรเลือกมา reskill กับ YourNextU นั้นเป็นเพราะ YourNextU ไปตอบโจทย์ที่จุดไหน (ให้ยก case study ปัญหาที่เจอ)
คุณกานติมา (AIS)
- ส่วนตัวเชื่อว่า โทรศัพท์มือถือ เป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย จึงนำความคิดนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างการเรียนรู้ให้กับพนักงานในองค์กรด้วยการให้พนักงานสามารถเข้าถึงศูนย์การเรียนรู้ขององค์กร ในหลากหลายรูปแบบผ่านโทรศัพท์มือถือ เช่น ห้องสมุดออนไลน์ เราเข้าใจว่าคนต้องการหาความรู้จากที่ใด ก็ได้ทุกที่ทุกเวลาและทุก Device
- ในการพัฒนาบุคลากรในองค์กรมีอุปสรรคที่เคยพบเจอ 2 ประการ ได้แก่
- ในอดีตต้องรอให้ทุกคนมาอยู่พร้อมหน้ากัน จึงจะเริ่มเรียนได้ ซึ่งการรอทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาหลายอย่างเช่นกัน และอาจทำให้พนักงานไม่มีใจในการอยากเรียนในสิ่งตรงหน้า
- พื้นฐานของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน
- เวลาเกิดการเปลี่ยนแปลง ฝ่ายแรกที่เราจะเข้าไป Disrupt คือ HR ด้วยการหยุดหลักปฏิบัติในการตามให้ทุกคนมาเข้าเรียน แล้วแทนที่ด้วยการสร้างการเรียนรู้ออนไลน์ด้วยตนเอง ด้วยส่วนหนึ่งเชื่อว่า คนที่มีความเป็นผู้นำจะมี Self-Analysis ด้วยการถามถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการตลอดเวลา หรือ 80% ของคนในองค์กรที่เป็น Gen Y มีพฤติกรรมในการเรียนรู้ที่ “ไม่รอ” และจะ “ไปหาความรู้ด้วยตนเอง” ดังนั้นการสร้าง Platform ที่สามารถหาความรู้ได้จากทุกที่ ทุกเวลา และจากทุก Device จึงเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพ
- อีกปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าองค์กรปัจจัยหนึ่งที่พบเจอคือ AIS มีพนักงานที่อยู่นานกว่า 20 ปี เป็นจำนวนมาก เป็นคนที่รักองค์กรซึ่งนับเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยขับเคลื่อนองค์กรได้ แต่จะต้องหาวิธีในการสร้างการเรียนรู้ด้วยตนเองให้พวกเขาได้เลือกใช้
- ในองค์กรมีพนักงานกลุ่ม Gen Y อยู่ประมาณ 80% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่รอความรู้ให้เข้ามาหา แต่เลือกจะเข้าไปหาความรู้ด้วยตนเอง ดังนั้นองค์กรจึงใช้พฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้เป็นข้อมูลในการ Track ความถี่ในการเรียนรู้ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบในหลายๆ กรณี เช่น การเลื่อนตำแหน่ง เป็นต้น
คุณยุทธชัย (Italthai)
- YourNextU เป็นอะไรที่ถูกและดี
- ตัวผมเองได้มีโอกาสได้ทดลองใช้ Content ที่เรียนมีความกว้างและน่าสนใจ ทำให้เราอยากเอาชนะตัวเอง อยากเรียนรู้เพื่อจะเพิ่มระดับการเรียนรู้ตัวเองจาก Basic สู่ Advanced
- สิ่งที่ท้าทายคือ จะทำอย่างไรให้คนในองค์กรหันมาชื่นชอบการเรียนผ่าน YourNextU แบบผมได้ ดังนั้นในองค์กรจึงเริ่มมีการเก็บคะแนนการเรียนรู้ผ่าน YourNextU ทำให้คนในองค์กรกระตือรือร้นขึ้นมาก จากตอนแรกที่เรียนผ่านช่องทาง online ตอนนี้เริ่มขยับขยายมาสู่ classroom
ดร. ศรายุธ (Mitrphol)
- ทุกวันนี้เราเอาแต่ยุ่งอยู่กับการปรับเปลี่ยน หรือพัฒนาแผนธุรกิจ พัฒนาระบบการผลิต หรืออื่นๆ แต่เราใส่ใจในการพัฒนาคนน้อยมาก ซึ่งนั่นคือปัญหาที่ทำให้องค์กรพัฒนาช้า
- ทักษะสำคัญที่ต้องเทรนให้คนในองค์กรมีอย่างแข็งแรงคือ Speed of Change หรือความเร็วในการ ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง
- เมื่อองค์กรสามารถสร้างความรู้สึกในการอยากเปลี่ยนแปลงในตัวเองได้ระดับหนึ่งแล้วก็อาจเกิดการบอกต่อคนอื่นๆ ให้เกิดความรู้สึกแบบเดียวกันได้
- YourNextU คือแหล่งความรู้ที่มีความเป็น origin จากสถาบันในระดับโลก อาทิ Stanford ฯลฯ Content มีมากมาย มีความทันสมัย เป็น Content ใหม่ๆ ทำให้เกิด shortcut ของการเรียนรู้
คุณฤทัย (MTL)
- สิ่งที่ชอบมากคือความยืดหยุ่น (Flexibility) ของ YourNextU เพราะไม่ได้มีแค่การเรียนรู้แบบออนไลน์เท่านั้น แต่ยังมีการเรียนรู้แบบออฟไลน์ควบคู่ไปด้วย
- ส่วนตัวรู้สึกว่าปัจจุบันคนไทยยังยึดติดต่อการเรียนในห้องเรียนหรือการเรียนในหมวดใดหมวดหนึ่งเท่านั้น ซึ่งมันไม่เพียงพอ
- การเรียนรู้แบบ multi – medium แบบ YourNextU ต่างหากคือคำตอบที่ถูกต้องสำหรับการเรียนในยุคนี้
- จริงๆ การเรียนออนไลน์ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่เต็ม 100% เพราะการเรียนออนไลน์จะทำให้ขาดการปฏิสัมพันธ์ การพบปะพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความรู้ในห้องนั้นก็สำคัญ จึงต้องมีไปควบคู่กัน
คุณภูมิพัฒน์ (PTG)
- ปัญหาเกิดจากขนาดขององค์กรที่ใหญ่ ทำให้เคลื่อนตัวได้ช้า ประกอบกับปัจจุบันพนักงานยังไม่รู้ How to learn? ดังนั้นแรกๆ เราจึงต้องสอน Basic Process เช่น การลงทะเบียนให้พวกเขาก่อน เมื่อทำได้ก็จะสามารถต่อยอดไปเรื่อยๆ ได้
- หลังจากการทดลองให้พนักงานทำการ Self-Learning เป็นเวลา 2 เดือน ผลตอบรับที่ได้มี 2 ข้อ ได้แก่
- พนักงานรู้สึกมีอิสระมากขึ้น และอิสระในการทำ Self-Learning นำไปสู่ความรับผิดชอบที่มากขึ้นด้วยในอนาคต
- ได้มีการเสนอให้ CEO มาเรียนที่ SEAC โดยเรียนใน 2 หลักสูตร ได้แก่ Growth Mindset และ Outward Mindset สิ่งที่ CEO ได้รับค่อนข้างอยู่เหนือความคาดหมาย และพอใจเป็นอย่างมาก เพราะ CEO ได้พบเจออะไรใหม่ๆ จากกลุ่มคนใหม่ๆ ที่ผ่านมาองค์กรจัดคลาสในการเสริมสร้างการเรียนรู้มากมาย แต่ก็จะได้รับแต่บริบทเดิมๆ เพราะมาจากคนเดิมๆ แต่เมื่อมาที่ SEAC ทำให้ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนกับกลุ่มคนที่หลากหลาย ทำให้ได้มุมมองใหม่ๆ ในการทำงานในองค์กรมากขึ้น
คุณอภิรัตน์ (SCG)
- SEAC คือสถาบันการศึกษาที่กล้าที่จะดิสรัปตัวเอง
- ล่าสุดได้เปิดตัว YourNextU โมเดลการเรียนรู้แบบผสมผสาน โดย Content ที่ SEAC ทำจะโฟกัสอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ Design, Business และ Technology ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้ คือ สิ่งที่จำเป็นต่อ Innovative Economy
- อีกทั้งยังมีการเอาหลักสูตรจากสถาบันระดับโลกมาปรับใช้ในราคาที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก
- แต่ก่อนคนอาจจะคิดว่าคนรวยเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ในการเข้าถึงการศึกษาที่ดี แต่ YourNextU จะมาเปลี่ยนความเชื่อเหล่านี้เสียใหม่
- ท่านผู้บริหารมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับโมเดลการเรียนรู้ YourNextU นี้ มองเห็นความแตกต่างอะไรใน YourNextU เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ความคาดหวังและเป้าหมายจากการที่ให้พนักงานเข้าร่วม Reskill กับ YourNextU
คุณกานติมา (AIS)
- ทุกองค์กรที่มี Academy เป็นของตัวเองมักจะใช้ความพยายามในการยัดเยียดสิ่งต่างๆ ให้กับคนในองค์กร ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ในการรู้ซ้ำๆ รู้สิ่งเดิมๆ ไม่มีความหลากหลาย (Diversity) และเมื่อพบเจออะไรที่แตกต่าง ก็จะทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องประหลาด หรือไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดความท้าทายกับองค์กรว่าองค์กรควรทำอย่างไรเพื่อให้พนักงานมีศักยภาพและเรียนรู้สิ่งที่แตกต่าง รวมถึงยอมรับในความแตกต่าง เพราะความแตกต่างหรือความหลากหลายเป็นสิ่งสวยงาม เมื่อเรียนรู้ความแตกต่างแล้วก็นำมาต่อยอดในการทำงานต่อไป
คุณยุทธชัย (Italthai)
- YourNextU คือช่องทางการเรียนรู้แบบ World-class contents
- เราจะทำอย่างไรให้คนไทยขยันขึ้น เพื่อพัฒนาตัวเองให้เทียบเท่าหรือเหนือกว่าต่างชาติ
- YourNextU คือทางลัด (Shortcut) ที่จะทำให้คนไทยในทุกเลเวลเพื่อที่จะเข้าถึง World-class contents
- YourNextU คือช่องทางการเรียนรู้ที่ที่รวดเร็วที่สุด
- อยากให้ทุกบริษัทสนับสนุน YourNextU เพื่อให้เกิด population ร่วมกัน
ดร. ศรายุธ (Mitrphol)
- ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ได้มีประสบการณ์โดยตรงจากการเป็น HR มาก่อน แต่เมื่อก่อนเราจะมีสูตรในการอบรมพนักงาน เช่น 70:20:10 ซึ่งเกิดคำถามกับสูตรเหล่านี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะกับสูตรของอัตราส่วนในการทำเทรนนิ่งให้พนักงานที่มีสัดส่วนแค่ 10% ได้ถูกค้นพบแล้วว่าเป็นวิธีการที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะโลกเปลี่ยนเร็วมาก วิธีการที่จะเทรนพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นการหาเครื่องมือใหม่ๆ มาให้พนักงานได้ใช้ ซึ่งจะทำให้เกิดความเร็วในการพัฒนาเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนขององค์กรได้ดีขึ้น โดย Reskill หรือ Upskill ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และหากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆก็จะสามารถยกระดับการแข่งขันของอุตสาหกรรมของประเทศให้ก้าวไกลได้มากขึ้นเช่นกัน
คุณฤทัย (MTL)
- เป้าหมายขององค์กรคืออยากจะหยุดคำว่า ไม่รู้ ไม่ได้ ไม่เป็น
- สกิลเดิมจะต้องหายไปและสกิลใหม่จะเข้ามาแทนที่ ดังนั้นตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงให้ได้มากที่สุด
คุณภูมิพัฒน์ (PTG)
- หากมองในบริบทของขนาดองค์กรจะพบว่าองค์กรขนาดใหญ่มักมี Academy ของตัวเองเนื่องจาก มีงบประมาณสนับสนุนค่อนข้างมาก แต่องค์กรขนาดกลางลงไปที่ไม่มี Academy ของตนเองก็ต้องพึ่งพาการใช้หลักสูตรของต่างประเทศที่มีราคาสูง ดังนั้นการเกิดขึ้นของ SEAC หรือ Your Next You จึงตอบโจทย์ Pain point ในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นการประหยัดทรัพยากรจากการรวมตัวกันตั้งเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ที่รวบรวมหลักสูตรจากนานาประเทศมาไว้ที่เดียวกัน อีกทั้งยังออกแบบให้เกิดการเข้าถึงได้อย่างง่ายและมีอิสระทำให้เกิดความแข็งแรงของอุตสาหกรรมในประเทศ
- ทุกวันนี้เรายังขาดช่องทาง (Channels) ในการเรียนรู้ และความตั้งใจในการลุกขึ้นมาเรียนรู้ หากองคืกรสามารถจัดเตรียมข่องทางในการเรียนรู้ และส่งเสริมความตั้งใจในการลุกขึ้นมาเรียนรู้ให้พนักงานในองค์กรได้ก็จะทำให้องค์กรสามารถขยายขนาดได้อีก ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่งองค์กรก็จะไม่ต้องแข่งกันเองภายในประเทศแต่จะแข่งกับระดับนานาชาติ
คุณอภิรัตน์ (SCG)
- YourNextU คือตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของการที่จะบอกว่าโลกใหม่ไปด้วยกันได้ เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่
- โลกใหม่จะมีงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้นคนต้องติดอาวุธตัวเองด้วยวิธีคิดแบบใหม่
Q&A
- คนกลุ่มไหนบ้างที่เข้ามารีสกิล?
PTG – ส่งระดับผู้บริหารมาก่อนเพื่อต้องการให้ผู้บริหารเข้าใจ
SCG – โฟกัสที่ early adopter และ กลุ่มคนที่อยู่ใน comfort zone
- หลักสูตรที่เป็นที่นิยมของ YourNextU คืออะไร?
SEAC – คนที่มาเรียนส่วนใหญ่จะเริ่มต้นเรียนที่เรื่อง mindset ก่อนจะแยกไปเรียนเฉพาะทาง