Home > ข่าว ประชาสัมพันธ์ > TK เดินหน้าดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ยกเครื่องระบบงานบริการ ใช้โมบายแอพพลิเคชั่น ยกระดับมาตรฐานการอนุมัติเช่าซื้อ ตอบโจทย์ลูกค้ายุค 4.0

TK เดินหน้าดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ยกเครื่องระบบงานบริการ ใช้โมบายแอพพลิเคชั่น ยกระดับมาตรฐานการอนุมัติเช่าซื้อ ตอบโจทย์ลูกค้ายุค 4.0

//
Comments are Off

บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย เผยลงทุนเพิ่มอีกกว่า 30 ล้านบาท พัฒนา “TK Plus” ระบบงานบริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ใหม่ เปลี่ยนจากระบบ manual มาใช้โมบายแอพพลิเคชั่น ตั้งแต่ปี 2556 และได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันเป็นเวลา 7 ปี TK จึงมีความพร้อมของระบบ IT ที่สามารถรองรับระบบอินเตอร์เฟซหลังบ้านด้วยแอพพลิเคชั่น Mobile Checker, Mobile Bill และ Mobile Box Management สำหรับให้บริการลูกค้าตั้งแต่เริ่มรับเรื่องขอใช้บริการเช่าซื้อ การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ งานบริหารหนี้ และงานอื่นๆ ให้พนักงานบริการลูกค้าบนระบบ ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นแบบไร้เอกสารระหว่างประสานงานภายใน ลดระยะเวลาอนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าจาก 1 วัน เหลือเพียง 1 – 2 ชั่วโมง เตรียมพัฒนาระบบชำระค่างวดให้ตอบความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล คาดใช้งานได้จริงเร็ว ๆ นี้ พร้อมเริ่มทดลองใช้ระบบเดียวกันบางส่วนที่กัมพูชา และ สปป.ลาว อีกทั้งยังมีแผนจะทดลองใช้ในเมียนมาร์ เป็นเฟสต่อไป


นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่าหนึ่งในเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจของ TK คือประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งรวมถึงการให้บริการที่ดีเพื่อความพอใจสูงสุดของลูกค้า ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มอีกกว่า 30 ล้านบาท พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในส่วนระบบงานให้บริการลูกค้า และในส่วนระบบการทำงานภายในองค์กร โดยในช่วงแรกของการพัฒนาระบบจะเน้นประโยชน์ในการอนุมัติสินเชื่อให้รวดเร็วและข้อมูลมีความถูกต้อง ด้วยการพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่นที่มีระบบอินเตอร์เฟซ 2 ส่วนสำคัญ คือ “TK Plus” ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นส่วนที่อินเตอร์เฟซกับลูกค้า และแอพพลิเคชั่นส่วนที่อินเตอร์เฟซกับพนักงานสำหรับทำงานเพื่อบริการลูกค้า
สำหรับแอพพลิเคชั่นส่วนที่อินเตอร์เฟซกับพนักงาน ประกอบด้วย 3 แอพพลิเคชั่น คือ Mobile Checker สำหรับบันทึกข้อมูลลูกค้า ตรวจสอบข้อมูลลูกค้า และพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ Mobile Bill สำหรับพนักงานบริหารหนี้ สำหรับการตรวจสอบสถานะต่าง ๆ ของงานบริหารหนี้ทั้งหมด โดยสามารถออกใบเสร็จรับเงินผ่านเครื่องพิมพ์แบบพกพาได้ทันที และ Mobile Box Management ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับพนักงานเก็บเงิน โดยถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่จัดเก็บเงิน ให้ทราบสถานะที่แท้จริงของลูกค้า เพื่อลดงานซ้ำซ้อนในระบบให้เจ้าหน้าที่ เพื่อบริหารเวลาทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นางสาวปฐมา อธิบาย
ส่วนแอพพลิเคชั่นที่อินเตอร์เฟซกับลูกค้า คือ “TK Plus” แอพพลิเคชั่นที่ลูกค้าสามารถใช้งานบนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ปัจจุบันลูกค้าสามารถใช้ฟังก์ชั่นเมนูขอสินเชื่อ เพื่อขอสินเชื่อทางออนไลน์ได้เลย พร้อมระบบการแจ้งเตือนก่อนถึงกำหนดชำระค่างวด เพื่อความสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ลูกค้ายังคงสามารถติดต่อสอบถามจากทาง Call Center ของบริษัทได้อีกด้วย

“แนวคิดของการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเกิดจากข้อมูลที่เรารวมคำถามที่ลูกค้าติดต่อผ่านเข้ามาทาง Call Center โดย 3 คำถามที่ลูกค้าสอบถามมากที่สุด คือ การตรวจสอบยอดชำระ ยอดค้างชำระ ดอกเบี้ย และช่องทางการชำระเงินต่าง ๆ รวมถึงการติดตามเอกสารสัญญาเช่าซื้อ ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ทาง TK จึงได้นำปัญหาจากลูกค้าไปใช้ในการพัฒนางานบริการดังกล่าวด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งผลคือ สามารถลดระยะเวลาอนุมัติเช่าซื้อให้ลูกค้าจาก 1 วัน เหลือเพียง 1 – 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ เรายังสามารถลดระยะเวลาในการออกสัญญาและส่งสัญญาตัวจริงไปให้ลูกค้าได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 2 – 3 วัน” นางสาวปฐมากล่าว
นางสาวปฐมา กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ บริษัทฯ กำลังพัฒนา “TK Plus” แอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าสามารถเรียกดูข้อมูล รวมถึงการออกแบบฟอร์มการชำระเงิน ให้สามารถชำระค่างวดผ่าน “TK Plus” แอพพลิเคชั่น คาดว่าจะพร้อมให้บริการฟังก์ชั่นใหม่เร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ TK ได้นำระบบดังกล่าวไปใช้ที่สาขาต่างประเทศด้วย โดยได้เริ่มทดลองใช้บางส่วนที่กัมพูชา และ สปป.ลาว และยังมีแผนจะทดลองระบบในเมียนมาร์ ต่อไป

Comments

comments

You may also like
TK ผลประกอบการ 2563 กำไร 367.6 ล้านบาท และมีเงินสดในมือ 2,213 ล้านบาท พร้อมเร่งขยายธุรกิจเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย
TK พบลูกค้าใช้ “TK Plus” เพิ่ม 265% จากโควิด-19 เผยพอร์ตลูกหนี้มีคุณภาพ เก็บเงินดี