กรุงเทพฯ, เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในงานสัมมนาออนไลน์ “Digital Transformation Forum” และ “Thailand Digital Excellence Awards 2020” สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ “ดีป้า” ได้มีการนำเสนอความรู้และประสบการณ์เชิงลึกจากองค์กรชั้นนำระดับโลกและในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการด้านดิจิทัลให้กับองค์กรต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (BCG) ทำการสำรวจและประกาศรางวัล องค์กรที่ความเป็นเลิศทางด้านการบริหารจัดการดิจิทัลใน 4 สาขา คือ Business Model Innovation, Optimized Operations, Culture & Talent และ Tech Innovation & AI โดยผู้ได้รับรางวัล ประกอบด้วย บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) ตามลำดับ โดยมี นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมให้เกียรติเป็นผู้มอบรางวัลที่ TMA เมื่อเร็ว ๆ นี้
ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ “ดีป้า” กล่าวว่า “ในปัจจุบันอุตสาหกรรมดิจิทัลเติบโตขึ้นมากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เศรษฐกิจไทยที่ดำเนินมาในโครงสร้างแบบเดิมได้ถูก Disrupt จากระบบดิจิทัล ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ผู้ผลิตเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยไม่ผ่านคนกลาง การจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้เราต้องพิจารณาสามเรื่อง คือ ต้องเร็ว ต้องสร้างความแตกต่าง และใช้การบริหารต้นทุนเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อไม่ให้โดน Disrupt ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างตัวเร่งภายในประเทศ วางโครงสร้างพื้นฐานระบบห่วงโซ่อุปทานให้เกิดขึ้นที่ประเทศไทย พัฒนาแพลตฟอร์มไทยเพื่ออุตสาหกรรมไทย”
อุปสรรคสำคัญต่อการเปลี่ยนถ่ายสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “เทคโนโลยีทันสมัยได้ถาโถมเข้ามาอย่างไร้พรมแดน เช่น ปัญญาประดิษฐ์, IOT, Big Data และอื่น ๆ การเปลี่ยนผ่านเพื่อนำเทคโนโลยีทันสมัยเหล่านั้นมาใช้ เพื่อจะพัฒนาคุณภาพชีวิตและดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องปรับกระบวนความคิด หรือ Mindset รวมทั้งปรับพฤติกรรมและวัฒนธรรมที่เคยชิน โดยอุปสรรคที่สำคัญต่อการเปลี่ยนถ่ายไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย คือ ก. กฎหมายที่บางทีเข้าใจยากซับซ้อนและบางทีอาจไม่เป็นธรรมต่อนักลงทุน ข. การแข่งขัน หากมีการแข่งขันที่ดีจะช่วยให้นวัตกรรมดี ๆ เกิดขึ้นได้ และ ค. ความคิด ควรเห็นวิกฤติเป็นโอกาส มองว่าการปรับสู่ดิจิทัลเป็นการลงทุนไม่ใช่ค่าใช้จ่าย”
Digitization vs. Digitalization vs. Digital Transformation อธิบายโดย BCG
นายอิษฎา หิรัญวิวัฒน์กุล Managing Director and Partner บริษัท บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (BCG) กล่าวถึงสามคำที่คนยังเข้าใจสับสน คือ “Digitization เป็นการปรับการดำเนินงานจากที่เป็นระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิทัล แต่ยังนำไปประมวลผลไม่ได้ เช่น สแกนเอกสารเก็บในรูปแบบไฟล์พีดีเอฟ Digitalization คือ การนำ digital และ เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูล แล้วทำให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้องค์กรได้ เช่น การนำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ส่วน Digital Transformation เป็นการนำระบบดิจิทัลเข้ามาตอบโจทย์กลยุทธทางธุรกิจ เพื่อให้ส่วนงานหลักและงานสนับสนุนขององค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างระบบนิเวศน์ใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผสานกับกระบวนการ แนวทางการทำงาน รูปแบบขององค์กร และวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ขึ้นมา ผลลัพธ์ของการทำ digital transformation มีมากมาย ตั้งแต่การช่วยลดต้นทุน ทำให้นำสินค้าและบริการเข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ที่สำคัญคือจะช่วยเพิ่มพูนทั้งความพึงพอใจของลูกค้าและสร้างยอดขายให้องค์กร
DAI หรือ Digital Acceleration Index เป็นตัวชี้วัดที่ทางBCGใช้เพื่อดูองค์กรนั้นๆว่าได้มีการทำ Digital Transformation ไปมากน้อยเพียงใด ตัวชี้วัดสามารถสรุปองค์กรออกมาได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆคือ Digital Starter, Digital Literate, Digital Performer และ Digital Leader.
พันธกิจการใช้ AI ของ Google
นางเอพริล ศรีวิกรม์ Country Manager, Google Cloud ประจำประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม กล่าวว่า “พันธกิจหลักของ Google คือการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาธุรกิจ หรือใช้ในชีวิตประจำวันได้ตลอดเวลา เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น AI และ Machine Learning ถือเป็นหัวใจหลักของเรา ข้อมูล หรือ Data คือสกุลเงินใหม่ในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล แต่หลายองค์กรยังไม่ได้ตระหนักถึงพลังที่แท้จริงของ Big Data หากองค์กรธุรกิจสามารถพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของตนให้มีความคิดที่เน้นข้อมูลเป็นศูนย์กลาง (Data-Centric) พวกเขาจะสามารถผลักดันองค์กรให้ก้าวกระโดดไปได้ในทุกมิติของธุรกิจ”
SCB เพิ่มทักษะบุคลากรให้เท่าทันเทคโนโลยี
นายวรวัจน์ สุวคนธ์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงาน SCB Academy ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ”เรื่องหนึ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญและดำเนินการมาโดยตลอด คือเรื่องการเตรียมความพร้อมของบุคลากรโดยได้มีการจัดตั้ง SCB Academy เพื่อดำเนินงานในเรื่อง Digital Transformation โดยนำเทคโนโลยีมาทดแทนการทำงานของคนในระดับหนึ่ง เช่น ระบบออโตเมชั่นและโรบอติกส์ เพื่อให้มีความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้นและทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยลดขั้นตอน เวลา และต้นทุนในการทำงานด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ซึ่งค่อนข้างมีผลกระทบกับพนักงาน ดังนั้นเป้าหมายหนึ่งในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานของธนาคารจึงเป็นการ Re-Skill พนักงานให้มีทักษะที่พัฒนาสูงขึ้นพร้อมกับการดำเนินงานของธนาคาร โดยยังต้อง Up-Skill ทักษะใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเพื่อให้พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
การทำสำรวจ Digital Transformation
สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ “ดีป้า” ร่วมกับ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (BCG) ได้ทำการสำรวจการเปลี่ยนแปลงองค์กรในประเทศไทยสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล โดยใช้เครื่องมือ Digital Acceleration Index (DAI) ของ BCG ซึ่งครอบคลุม 4 เรื่องหลัก คือ แผนกลยุทธ์ธุรกิจที่ขับเคลื่อนโดยดิจิทัล การใช้ดิจิทัลในการทำงานหลักขององค์กร เช่น ฝ่ายการตลาด ฝ่ายปฏิบัติการ การพัฒนาการใช้ดิจิทัลหรือการมีดิจิทัลใหม่ๆ ในองค์กร และการใช้ดิจิทัลที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการขับเคลื่อนองค์กร ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้เข้าใจสภาพการณ์ของ digital transformation ในประเทศไทย และศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่องค์กรควรให้ความสำคัญเพื่อสามารถเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรดิจิทัลได้สำเร็จ มีองค์กรชั้นนำที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 60 แห่ง จาก 7 อุตสาหกรรม ซึ่งข้อมูลถูกนำมาเปรียบเทียบกับองค์กรระดับโลก 2,000 กว่าแห่งทั่วโลก ใน 36 มิติ โดยพบว่าองค์กรที่เปลี่ยนผ่านให้เป็นองค์กรดิจิทัลได้ มีมูลค่าองค์กรเป็น 2.4 เท่า เทียบกับองค์กรที่ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงด้านนี้
จากผลการสำรวจ แม้องค์กรส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงต้นของการทำ digital transformation แต่ก็กำลังใกล้จะข้ามขั้นไปสู่วุฒิภาวะทางดิจิทัล โดยองค์กรเหล่านี้มีความมุ่งมั่นที่เป็นองค์กรชั้นนำในด้านนี้ในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อให้สามารถเปลี่ยนผ่านสำเร็จและได้ประโยชน์เต็มที่จากการนี้ องค์กรไทยจำเป็นต้องลงทุนสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านดิจิทัล ทำดาต้าแพลทฟอร์ม นำออโตเมชั่นมาใช้ในกระบวนการทำงาน และสร้างระบบนิเวศน์ด้านดิจิทัลขึ้นมาในองค์กร ทั้งนี้ พบว่าในทุกอุตสาหกรรมที่สำรวจ มีตัวอย่างขององค์กรที่สามารถผลักดันตนเองขึ้นมาจนใกล้สู่ระดับ digital leadership ได้แล้วเช่นกัน หากมองตามอุตสาหกรรม สถาบันการเงินเป็นกลุ่มที่มีความก้าวหน้าในเรื่องนี้มากที่สุด ซึ่งผลที่ออกมาสอดคล้องกับทุกภูมิภาคของโลก ส่วนธุรกิจเฮลธ์แคร์ตามมาเป็นที่สอง สอดคล้องกับตลาดเอเชีย ซึ่งในกรณีนี้ต่างไปจากทางอเมริกาหรือยุโรป พิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เป็นแรงผลักดัน ประกอบกับความมุ่งมั่นขององค์กรในประเทศไทย เราคงจะได้เห็น Bionic Company นั่นคือองค์กรที่สามารถผสานการทำงานของดิจิทัลเข้ากับการทำงานของทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างยอดเยี่ยมทั้ง 4 ด้านอย่างสมบูรณ์ในอนาคต
ผลรางวัล “Thailand Digital Excellence Awards”
ผลของการศึกษาการสำรวจการเปลี่ยนแปลงองค์กรในประเทศไทยสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล นำไปสู่การมอบรางวัล Thailand Digital Excellence Awards โดย TMA และ ดีป้า ซึ่งประกอบด้วยรางวัลใน 4 สาขา ซึ่งมีองค์กรที่ได้รับรางวัลดังนี้
รางวัล Thai Digital Champion for Business Model Innovation ได้แก่ บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) รางวัล Thai Digital Champion for Optimized Operations ได้แก่ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด รางวัล Thai Digital Champion for Culture & Talent ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) และ รางวัล Thai Digital Champion for Tech Innovation & AI ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน)
นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล กล่าวว่า” การมอบรางวัล “Thailand Digital Excellence Awards” ถือว่าสอดคล้องกับความมุ่งมั่น นโยบาย และภารกิจของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลของประเทศ สำหรับผู้ได้รับรางวัล “Thailand Digital Excellence Awards” ขอให้รักษาคุณภาพและพัฒนาศักยภาพในการนำนวัตกรรมดิจิทัลไปประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับบริบทของ Digital Transformation โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในปีต่อ ๆ ไปจะได้เห็นพัฒนาการด้านบริหารจัดการองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลให้มีความทันสมัยและเกิดประสิทธิผลในระดับสากล อันจะเป็นต้นแบบให้องค์กรอื่น ๆ เห็นความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้ธุรกิจมีผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้นและมีส่วนสำคัญในการช่วยยกระดับขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศไทยโดยรวมต่อไป”