Home > ข่าว ประชาสัมพันธ์ > ไขทุกข้อสงสัย 9 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้

ไขทุกข้อสงสัย 9 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้

//
Comments are Off

กรุงเทพฯ ( สิงหาคม 2564) – นาทีนี้คงไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนถูกพูดถึงมากเท่ากับสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้เจเนอเรชันล่าสุด Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G ที่ซัมซุงได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความตื่นตาตื่นใจและกระแสตอบรับอย่างล้นหลามสนั่นโซเชียล แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรูปทรงแปลกตานี้ ทั้งในแง่ของความทนทาน ความคุ้มค่า ไปจนถึงฟีเจอร์ใหม่และไฮไลท์อย่างการรองรับ S Pen เป็นครั้งแรก ซึ่งซัมซุงได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยจากผู้บริโภคทั้งหมด 9 ข้อดังต่อไปนี้ เพื่อไขทุกข้อสงสัยให้ทุกคนสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
1) “สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้จะใช้งานทนทานมากแค่ไหน?”

ซัมซุงเข้าใจถึงความกังวลของผู้ใช้ที่มีต่อสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ จึงนำความคิดเห็นดังกล่าวมาพัฒนาให้ Galaxy
Z Fold3 | Flip3 5G มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยบานพับและเฟรมของสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นทำจาก Armor Aluminum ซึ่งเป็นอลูมิเนียมที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนของซัมซุง มอบความทนทานและช่วยปกป้องส่วนประกอบด้านในเครื่องได้ดีกว่าที่เคย บริเวณด้านนอกของตัวเครื่องยังใช้กระจก Corning® Gorilla® Glass Victus™ ซึ่งมีความแข็งแรงสูง สามารถปกป้องเครื่องจากรอยขีดข่วนได้มากถึง 4 เท่า ที่สำคัญยังเป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นแรกที่มาพร้อมคุณสมบัติการทนน้ำมาตรฐาน IPX8 สามารถทนน้ำลึก 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้หากมีเหตุน้ำหกใส่หรือต้องใช้งานขณะฝนตก
2) “ใช้ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G ไปนานๆ แล้วหน้าจอจะเป็นอะไรไหม?”

เทคโนโลยี Ultra Thin Glass (UTG) บนหน้าจอพับได้ของ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G ถูกพัฒนาให้มีความแข็งแรงกว่ารุ่นก่อนถึง 80% ด้วยกรรมวิธีการผลิตแผงหน้าจอ ไปจนถึงฟิล์มป้องกันรอยแบบใหม่ที่เปลี่ยนจาก TPU เป็นชนิด PET ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง ช่วยเพิ่มความทนทานกว่าที่เคยโดยไม่จำเป็นต้องติดฟิล์มเพิ่มเติม อีกทั้งยังการันตีด้วยผลการทดสอบจาก Bureau Veritas ว่าสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ทั้ง 2 รุ่นสามารถทนทานต่อการพับเปิด-ปิดถึง 200,000 ครั้ง เทียบเท่าการใช้งาน 5 ปี เมื่อเฉลี่ยเปิด-ปิด วันละ 100 ครั้งเลยทีเดียว
3) “S Pen Fold Edition กับ S Pen Pro ต่างกันอย่างไร? สามารถใช้ S Pen รุ่นก่อนกับ Galaxy Z Fold3 5G ได้หรือไม่?”
อีกหนึ่งไฮไลท์ในครั้งนี้คือการที่หน้าจอหลักของ Galaxy Z Fold3 5G สามารถรองรับ S Pen ได้แล้ว ถือเป็นก้าวแรกสู่อีกขั้นของนวัตกรรมสมาร์ทโฟน ซึ่งปากกา S Pen ที่เผยโฉมพร้อมกับ Z Fold3 ในครั้งนี้ เป็น S Pen เวอร์ชันใหม่ที่พัฒนามาเพื่อใช้งานกับสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้โดยเฉพาะ มาในตัวเลือก 2 แบบ ได้แก่ S Pen Fold Edition และ
S Pen Pro โดยทั้งคู่มาพร้อมหัวปากกาแบบใหม่ที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเพื่อจำกัดแรงกดบนหน้าจอ จึงเป็นเหตุผลให้ไม่สามารถใช้ S Pen รุ่นก่อนๆ กับ Galaxy Z Fold3 5G ได้นั่นเอง

สำหรับความแตกต่างของ S Pen ทั้ง 2 แบบนั้น S Pen Fold Edition สามารถใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานของ S Pen ได้โดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ มาพร้อมหัวปากกาขนาดเล็ก 1.5 มม. มอบสัมผัสการเขียนที่ลื่นไหลและแม่นยำ และยังมีขนาดกะทัดรัดสามารถเก็บในเคส Flip Cover ได้ ทั้งนี้ S Pen Fold Edition สามารถใช้ได้กับ Galaxy Z Fold3 5G เท่านั้น ในขณะที่ S Pen Pro มาพร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธ (BLE) จึงรองรับฟีเจอร์ต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งรวมถึง Air Action สามารถควบคุมการทำงานของแอปพลิเคชันต่างๆ จากระยะไกลด้วยท่าทาง พร้อมใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 16 วันด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว มาในขนาดที่จับถนัดมือมากขึ้น โดย S Pen Pro สามารถสลับโหมดเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์กาแลคซี่อื่นๆ ที่รองรับได้อีกด้วย
4) “มี S Pen ให้ในกล่อง Galaxy Z Fold3 5G เลยหรือเปล่า?”

ซัมซุงนำเสนอ S Pen ใหม่ถึง 2 รุ่นเพื่อมอบตัวเลือกให้กับผู้ใช้ตามไลฟ์สไตล์การใช้งานที่แตกต่างกัน โดย S Pen Fold Edition วางจำหน่ายเสริมในราคา 1,590 บาท หรือสามารถซื้อแพ็คเกจเคส Flip Cover พร้อม S Pen Fold Edition ได้ในราคา 2,790 บาท ในขณะเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถเก็บ S Pen Pro ในเคสได้ แต่สิ่งที่ผู้ใช้จะได้รับคือประสบการณ์การใช้งานเสมือนปากกาจริง จับถนัดมือมากยิ่งขึ้น และยังสามารถนำไปใช้งานร่วมกับอุปกรณ์กาแลคซี่อื่นๆ ที่รองรับได้เช่นกัน โดย S Pen Pro วางจำหน่ายแยกในราคา 3,690 บาท
5. “Galaxy Z Fold3 5G สามารถเปิดใช้งานพร้อมกันได้กี่แอปพลิเคชัน รองรับทุกแอปหรือไม่?”

ฟีเจอร์ Multi-Active Window บนจอหลักของ Galaxy Z Fold3 5G สามารถเปิดใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 3 แอปพลิเคชัน และยังผ่านการอัปเกรดให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ตอบสนองทั้งหน้าจอแนวตั้งและแนวนอน สามารถปรับขนาด Layout ของแต่ละแอปได้ตามต้องการ เพิ่มความคล่องตัวด้วยฟีเจอร์ App Pair ให้ผู้ใช้จับคู่และเปิดแอปที่นิยมใช้พร้อมกันได้ในครั้งเดียว และสำหรับบางแอปพลิเคชันที่ยังไม่รองรับฟีเจอร์ Multi-Active Window ซัมซุงก็ได้นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Labs ซึ่งจะช่วยแบ่งหน้าจอให้สามารถเปิดแอปอื่นๆ ที่ต้องการได้พร้อมกันนั่นเอง
6. “Galaxy Z Flip3 5G ต่างจากรุ่นก่อนอย่างไร?”

นอกเหนือจากความทนทานของตัวเครื่องและหน้าจอที่เพิ่มขึ้นกว่า 80% แล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ของ Galaxy Z Flip3 5G ที่แตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัดคือหน้าจอด้านหน้า หรือ Cover Screen โฉมใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง
4 เท่า จึงสามารถเช็คการแจ้งเตือนหรือเลื่อนดูข้อความได้ถึง 8 บรรทัดโดยไม่จำเป็นต้องกางเครื่องออก อีกทั้งยังสามารถดูพรีวิวขณะถ่ายเซลฟี่หรือวิดีโอได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย
7. “ประเทศไทยวางจำหน่าย Galaxy Z Flip3 5G สีอะไรบ้าง?”

นอกจาก 4 สีสุดโมเดิร์นอย่าง สีครีม สีเขียว สีม่วงลาเวนเดอร์ และสีดำ Phantom Black แล้ว ซัมซุงประเทศไทยยังเปิดวางจำหน่าย 3 สีพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ Galaxy Z Flip3 5G เฉพาะช่องทาง Samsung.com เท่านั้น ซึ่งได้แก่
สีเทา สีชมพู และสีขาว ให้กาแลคซี่แฟนชาวไทยได้เลือกแมทช์เข้ากับสไตล์ของตัวเองโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
8) “มีการรับประกันอย่างไร?”


ลูกค้า Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G จะได้รับฟรี Samsung Care+ ประกันความเสียหายต่อตัวเครื่องอันเกิดจากอุบัติเหตุ (ประกันหน้าจอแตก เครื่องตกแตก และความเสียหายจากน้ำ) ภายใน 1 ปี นับจากวันแรกที่เปิดใช้งาน รวมถึงบริการส่งช่างเทคนิคถึงบ้าน ทำให้ใช้งานได้อย่างอุ่นใจ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ https://free.samsungcareplus.com/th
9) “ราคาเท่าไหร่ มีข้อเสนอพิเศษอะไรบ้าง?”
สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้เจเนอเรชันล่าสุดของซัมซุงเปิดตัวในราคาใหม่ที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น Galaxy Z Fold3 5G มาในราคาเริ่มต้น 57,900 บาท (256GB) และ 61,900 บาท (512GB) ในขณะที่ Galaxy Z Flip3 5G วางจำหน่ายในราคา 34,900 บาท (128GB) และ 36,900 บาท (256GB)
โอกาสสุดท้าย จองเป็นเจ้าของ Galaxy Z Fold3 5G และ Galaxy Z Flip3 5G พร้อมการันตีดีลที่ดีที่สุดได้ ภายในวันที่ 22 สิงหาคม นี้เท่านั้น เพื่อรับคูปองเงินสดสูงสุด 9,000 บาท พร้อมรับเครื่องก่อนใครในวันที่ 2 กันยายนเป็นต้นไป ทาง https://www.samsung.com/th/zfold3/buy และ https://www.samsung.com/th/zflip3/buy

นอกจากนี้ ซัมซุงยังส่งโปรโมชัน Trade-in ที่หลายคนรอคอย สามารถนำสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าทุกแบรนด์มาแลกเป็นส่วนลดได้สูงสุดถึง 3 เครื่อง สามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติม เช็ครุ่นที่ร่วมรายการ และประเมินราคาเบื้องต้นได้ทาง https://www.samsung.com/th/tradeinpromotion/
หวังว่าทั้ง 9 ข้อนี้ จะช่วยคลายข้อสงสัยที่หลายคนมีต่อ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นใหม่ล่าสุดจากซัมซุงได้มากขึ้น หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของทั้ง 2 รุ่นได้ทาง www.samsung.com/th/zfold3 และ www.samsung.com/th/zflip3

You may also like
ซัมซุงเผยโฉมพรีเมียมไลน์อัพ Neo QLED 8K แห่งปี 2022 ชูจุดเด่นนวัตกรรมที่เป็นมากกว่าทีวี คมชัดไร้ขอบเขต อีกระดับของความสมบูรณ์แบบ
พลิกโฉมประสบการณ์การใช้แท็บเล็ต กับหน้าจอที่ใหญ่กว่า ด้วย Samsung Galaxy Tab S8 Ultra พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้!
ซัมซุง ประกาศวันจัดงาน Samsung Galaxy Unpacked อย่างเป็นทางการเตรียมพบกับ The New Galaxy รุ่นใหม่ล่าสุด 9 กุมภาพันธ์นี้ 4 ทุ่ม (เวลาประเทศไทย)
5 สิ่งที่ทำให้คุณต้องหลงรัก Samsung Galaxy S21 FE 5G สมาร์ทโฟนสุดคุ้มค่าที่พร้อมมอบประสบการณ์ระดับแฟลกชิปให้กับแฟนๆ